การใช้บริการรถไฟฟ้า
ข้อมูลทั่วไปจุดให้บริการข้อมูลและบริการแลกเหรียญ จะตั้งอยู่ติดกับทางเข้า ซึ่งเราสามารถสอบถามได้ทั้งข้อมูลบริการต่าง ๆ ของรถไฟฟ้าบีทีเอส และข้อมูลสถานที่หลัก ๆ ของบริเวณสถานีนั้น ๆ ได้ หรือหากใครต้องการซื้อบัตรโดยสารแบบต่าง ๆ ก็ติดต่อที่นี่ได้เลยเช่นกัน
ประเภทของการใช้บริการรถไฟฟ้า
1. บัตรสมาร์ทพาส เหมาะกับคนใช้บริการรถไฟฟ้าเป็นประจำ เพราะว่าราคาค่าใช้จ่ายต่อเที่ยวจะถูกกว่า แต่ผู้ใช้ต้องเคยเติมเงินเข้าไปในบัตรด้วย
2. บัตรโดยสารแบบวัน-เดย์-พาส (ประเภทบัตรวันเดียว) สามารถใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว สิ้นสุดการใช้งานที่เวลาเที่ยงคืนของวันนั้น ๆ (ไม่ใช่ว่าใช้ได้ 24 ชั่วโมง ดังนั้นเมื่อเปลี่ยนวันใหม่ บัตรนี้จะใช้งานไม่ได้แล้ว) ปัจจุบันราคา 130 บาท
3. บัตรโดยสารแบบเที่ยวเดียว เป็นตั๋วโดยสารยอดฮิตสำหรับคนทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่ใช้งาน BTS ไม่บ่อยนัก ตอนออกจากสถานนีรถไฟฟ้า เครื่องตรวจบัตรจะยึดบัตรคืนกลับไป
แผนที่ของทางเดินรถไฟฟ้า
![]() |
แผนที่ทางเดินรถไฟฟ้า |
การซื้อตั๋วแบบครั้งเดียว (ไม่ใช่บัตร)
1. ดูแผนที่ตรงเครื่องขายตั๋ว เพื่อให้แน่ใจว่าจุดที่เราอยู่นั้นอยู่จุดไหน ซึ่งจะเป็นสีเขียวทึบและดูว่าสถานีจุดหมายปลายทางที่เรากำลังจะไปนั้นราคาเท่าไร โดยที่ราคาค่าตั๋วนั้นจะบอกอยู่ตรงแผนที่อยู่แล้ว ซึ่งหากเรามีเหรียญไม่พอจ่าย (เครื่องนี้รับเฉพาะเหรียญ 5 และ 10 เท่านั้น) ก็สามารถทำการแลกเหรียญได้ที่เค้าเตอร์ของเจ้าหน้าที่เลย (รูปแผนที่เปรียบเทียบจุดที่เราอยู่กับจุดอื่นที่บอกราคา)
2. (สำหรับเครื่องขายนี่เป็นขั้นตอนที่ 1) กดปุ่มเพื่อบอกว่าเราต้องการซื้อตั๋วในราคาเท่าไร โดยที่ราคาจะเริ่มจาก 15 บาท เพิ่มขึ้นทีละ 5 บาทไปจนถึง 60 บาท เราจะสามารถซื้อตั๋วได้ทีละใบเท่านั้น หากต้องการซื้อหลายใบ พอได้ตั๋วใบแรกแล้วก็ค่อยมาเริ่มที่จุดนี้ใหม่อีกครั้ง
3. ทำการหยอดเหรียญตามราคาที่เราเพิ่งกดเลือกไป อย่าลืมว่าเครื่องรับเฉพาะเหรียญ 5 กับ 10 เท่านั้น (เครื่องสามารถทอนเงินได้ เพราะฉะนั้นหากเราใส่จำนวนเงินเกินไปก็ไม่ต้องเป็นห่วง รอรับเงินทอนพร้อมตั๋วเดินทางได้เลย)
4. เมื่อหยอดเงินครบจำนวนแล้ว ตั๋วจะเด้งออกมาจากเครื่องขายตั๋วประมาณครึ่งนึง เราก็ดึงออกมาได้เลย
5. ถ้ามีเงินทอน ก็จะออกมาที่ช่องรับเงินทอนด้านล่าง
ตั๋วที่เราได้รับมานั้นจะมี เครื่องหมายบอกว่าให้เราสอดบัตรด้านไหน ส่วนใหญ่แล้วด้านหน้าจะมีรูปภาพหลากหลาย ส่วนด้านหลังจะมีเงื่อนไขการใช้ หรือไม่ก็แผนที่สถานีต่าง ๆ ของรถไฟฟ้าบีทีเอส วิธีการโดยสารด้วยรถไฟฟ้า
6.เมื่อเราได้ตั๋วมาอยู่ในมือแล้ว ก็ตรงไปยังช่องทางเข้าเลย แต่ว่าแนวกั้นของทางเข้าและทางออกนั้นอยู่ในแนวเดียวกัน เพราะฉะนั้นให้สังเกตว่าช่องทางเข้านั้นจะมสีเครื่องหมายลูกศรสีเขียวอยู่ด้านหน้า ในขณะที่ช่องทางออกนั้นจะเป็นเครื่องหมายกากบาทสีแดง
7. เมื่อเรามาถึงเครื่องตรวจตั๋วแล้ว เราก็สอดตั๋วเข้าไปในช่อง ซึ่งเมื่อใส่เข้าไปแล้วตั๋วจะเด้งออกมาจากช่องด้านบน จากนั้นเมื่อเราดึงตั๋วออก ที่กั้นก็จะเปิด (เมื่อดึงตั๋วออกแล้ว ให้รีบเดินเข้าไป เพราะถ้าช้าอาจจะโดนที่กั้นหนีบได้ ซึ่งคนที่เคยโดนบอกว่าเจ็บไม่น้อยเลยทีเดียวถึงจะแค่เฉี่ยว ๆ ก็เถอะ) ตั๋วที่เราดึงออกมาก็ต้องเก็บไว้ใช้ตอนขาออกนั่นเอง
8. เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว ตรงนี้สำคัญมาก เพราะเราต้องดูว่าฝั่งไหนคือฝั่งไหนรถไฟฟ้าไปทางไหน โดยที่จะมีสถานีท้ายสุดเป็นตัวบอก เช่นฝั่งนึงไปอ่อนนุช และอีกฝั่งนึงไปหมอชิตเป็นต้น เพราะฉะนั้นแล้วเราจะต้องจำไว้ด้วยว่าสถานีสุดท้ายของเราคือสถานีอะไร เมื่อเราเลือกฝั่งที่จะไปได้แล้วก็เดินขึ้นไปได้เลย (ถ้าขึ้นผิดก็จะกลายเป็นนั่งรถไฟฟ้าไปผิดทาง แต่ไม่ต้องกังวลใจไปเพราะเราสามารถนั่งรถไฟฟ้ากลับมาได้ ตราบใดที่เรายังไม่ได้ออกจากสถานีไป เราก็ยังไม่ต้องซื้อตั๋วใหม่)
9. เมื่อขึ้นมาแล้วจะเห็นว่าชั้นนี้เป็นชานชาลารถไฟฟ้า จะมีคนยืนรอขึ้นรถไฟฟ้าอยู่ ดูที่เครื่องหมายบนพื้นจะมีบอกว่าตรงนี้สำหรับคนจะเข้ารถไฟ ตรงนี้สำหรับคนจะออก เพื่อจะได้ไม่เกิดเกะกะคนที่จะออกจากรถไฟฟ้าเมื่อรถมาถึง (ตามมารยาทแล้วต้องให้คนออกจากรถโดยสารก่อนอยู่แล้ว)
10. เมื่อคนออกหมดแล้วก็เข้าไปในรถไฟฟ้าได้เลย ด้านในจะมีที่นั่งสองฝั่ง กับพื้นที่ว่างให้ยืน ซึ่งจะมีห่วงและเสาไว้ให้ผู้โดยสารยึดด้วย เพราะรถจะวิ่ง ๆ หยุด ๆ เพราะต้องจอดตามสถานีต่าง ๆ ทำให้ทรงตัวค่อนข้างลำบาก ภายในรถไฟฟ้า บริเวณด้านบนของประตูเข้าออกแต่ละจุด จะมีแผนที่สถานีต่าง ๆ ของรถไฟฟ้าด้วย โดยที่จะมีเสียงคอยบอกเราว่าสถานีที่กำลังจะถึงนั้นคืออะไร (หากฟังไม่ค่อยชัด ให้ดูที่จอทีวีสำหรับโฆษณาก็ได้ เพราะใต้โฆษณาจะมีข้อมูลสถานีต่อไปบอก) อย่างไรก็ตามรถไฟฟ้าบางคัน จะมีสัญญาณไฟบอกด้วยว่าตอนนี้รถไฟฟ้าอยู่สถานีใด และกำลังจะไปสถานีไหนบ้าง ทำให้สะดวกกับผู้โดยสารไม่น้อยเลย
( นอกจากนั้นภายในรถไฟฟ้าจะมีทีวีไว้สำหรับโฆษณาด้วย ใครว่าง ๆ ก็นั่งดูไปเพลิน ๆ ให้ถึงที่หมายก็ได้)
11. เมื่อถึงที่หมายเราก็เดินลงมาด้านล่างเพื่อออกจากสถานี แต่ว่าอาจจะต้องดูว่าทางออกไหนเหมาะกับจุดที่เราจะไปมากที่สุด จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินอ้อมไปอ้อมมา
กรณีซื้อตั๋วผิดสถานี (ซื้อตั๋วราคาถูกกว่าราคาจริง) สามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะขอเก็บเงินเราเพิ่ม เราจึงจะออกจากสถานีได้
คำเตือน อย่างที่รู้กันว่าถ้าเราไม่เดินออกจากสถานี เราก็นั่งรถไฟฟ้าไปไหนมาไหนได้ ซึ่งบางคนก็เลือกที่จะนั่งรถไฟฟ้าไปเพลิน ๆ แล้วจึงมาออกจากสถานีที่ต้องการ การทำแบบนี้ไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่ว่าในปัจจุบันหากเราอยู่ในระบบรถไฟฟ้าเกิน 120 นาที เราจะโดยเบี้ยปรับเกินเวลาด้วย ซึ่งอยู่ที่ 40 บาท
การสลับสายรถไฟฟ้า ทำได้ที่สยาม โดยที่จะมี platform ให้เราเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าสายอื่น (แต่ต้องดูให้ดีว่ารถไฟฟ้าที่เราจะต้องขึ้นนั้น จะวิ่งไปทางไหน) จุดนี้อาจทำให้คนสับสนได้เหมือนกัน (อาจจะต้องบอกว่ามีสองชั้น ทำผังว่าชั้นไหนไปทางไหน)
ตัวอย่างวิดีโอการใช้รถไฟฟ้า
อ้างอิง
http://www.pattayaconcierge.com/th/bangkok/info/bts-sky-train.php
www.geocities.ws/railsthai/servicebts.html
www.bts.co.th/corporate/th/02-system-safety02-1.aspx
www.bts.co.th/customer/th/01-ticket_room.aspx
เฮง เฮง 888 สล็อต เว็บตรง มาแรง การเล่นสล็อตออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องในวงการเกมโอนไลน์ pg โดยเฉพาะเมื่อมีเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการโดยตรงที่มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือ
ตอบลบ